วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

สี่ล้อแดงอาเขต ไปเชียงของ

สี่ล้อแดงอาเขต ไปเชียงของ

สี่ล้อแดงอาเขต ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557 ได้พบกับนักปั่นจักรยาน ชาวจีน ต้องการไป
ยังด่านชายแดน บ้านห้วยทราย ของลาว โดยไปถึงที่เชียงของ เตรียมข้ามด่าน ห้วยทราย
ข้ามที่ท่าเรือบั๊ก ในขณะที่รถของเบอร์ที่ 21 อาเขต ได้ผ่านช่องทางที่จะไปเข้าคิวเล็ก
อาเขต 3 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ได้เรียกรถ บอกว่าจะบรรทุกจักรยาน
จำนวน 8 คัน ไป อ.เชียงของ จ.เชียงราย ยังคิดหาวิธีที่จะเอาไปอย่างไรดี ก็ได้นำ
จักรยานทั้งหมด ขึ้นไว้บนหลังคา แล้วทดลองหาตำแหน่งดู ก็ใช้วิธีวางตั้งแล้วสลับ
หัวท้าย จนกระทั่งได้ 8 คัน ก็ใช้เชือกมัดไว้ แล้วทั้งหมดก็นั่งในรถ ระหว่างทางก็ไม่ทราบ
ว่าไปทางไหนจะใกล้ หรือว่าไกล ก็ลองทดสอบถามคนในพื้นที่ดู ว่าให้ไปทาง อ.เทิง
ขาไปได้ไปทาง อ.เทิง ปรากฎว่า ถนน ระหว่าง อ.เทิง ไป อ.เชียงของ มีการทำ
ถนน กลางทาง ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาก และได้แวะกินก๋วยเตียว ซึ่งชาว
จีน ก็ได้ชวนให้กินก๋วยเตี๋ยวด้วย กว่าจะไปถึงท่าเรือบั๊ก ก็เวลา เกือบบ่าย 3 โมงแล้ว
ใช้เวลามากจริง เป็นวันที่ ภาณุเพื่อนร่วมงานไปงาน พ่อน้องแบ๊งค์เสีย ที่ใกล้สี่แยก
ขุนกรณ์ พอดี ขาไปตั้งไมล์ไว้ 0000 ออกจากอาเขต ปรากฎว่าไปถึงเชียงของ 316
กม. พอดี ขากลับเห็นป้ายบอกว่ามาทางอำเภอพญาเม็งราย ระยะทาง 100 กม.
ต้องการหลีกทางที่ทำถนน เป็นดินแดง เปียก ก็ออกทางนี้ ครับ ขากลับก็แวะหาเพื่อน
กัน สมัยเป็นเด็ก ที่ดอยผางาม อ.เวียงชัย เป็นเขาที่โผล่กลางทุ่งนา ตรงขึ้นไปสวยงาม
มาก ครับ ระยะทาง 100 กม.จริงครับ มาโผล่ที่แยก อ.เวียงชัย ไปทะลุแยกขุนกรณ์
เหมือนกันครับ ที่จะไป อ.เทิง ไปทาง เวียงชัย ประหยัดได้ 30 กม.












































ถ้าท่านต้องการที่จะไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้
ลงรถที่สถานนีขนส่งอาเขต ที่เชียงใหม่ แห่งใหม่(อาเขต3)
หรือสถานีขนส่งอาเขต เก่า (อาเขต2)
ท่านจะเห็นรถสองแถวแดงที่คอยบริการท่าน
จอด เรามีรถไว้บริการท่านจำนวนมาก หลากหลายสไตล์
ที่ท่านชอบ หรือว่าท่านจะสดวก ติดต่อมาก่อนก็ได้
ที่หมายเลข 081-5688750 ยินดีให้บริการแนะนำ
ท่องเที่ยวเชียงใหม่







วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

ทริป 2 วัน 1 คืน ที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

ทริป 2 วัน 1 คืน ที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

 เราเดินทางมาอินทนนท์โดยใช้เส้นทางหลัก โดยเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่ - จอมทอง ถึงหลักกม.ที่ 57
ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กม. แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กม. รวมระยะทางจาก
ตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ ประมาณ 106 กม.

เจอทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 แล้วครับ













ยามเมื่อสายฝนโปรยปรายจนกระทั่งสายลมหนาวพัดผ่านมาแทนที่ นักท่องเที่ยวมากมายเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าขึ้นดอยกันไม่ขาดสาย หนึ่งในดอยที่สามารถเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย ไม่น่าเชื่อว่าดอยแห่งนี้จะเป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับเป็นดอยที่เที่ยวง่ายและสะดวกสบายที่สุด เพราะทุกสถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนหนทางที่ลาดยางอย่างดี การขับรถเที่ยวชมน้ำตกในฤดูฝน ชมแม่คะนิ้งในฤดูหนาว ชมดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบานเต็มต้น และกุหลาบพันปีฝนช่วงปลายหนาว และชมป่าเปลี่ยนสีในช่วงย่างฤดูร้อน เรียกได้ว่าจะฤดูไหนถ้ามาเชียงใหม่แล้วนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดีในระยะเวลา 1 วัน 2 วัน หรือ 3 วัน 2 คืน ดอยอินทนนท์ คือจุดหมายปลายทางที่จะทำให้คุณประทับใจ
ด้วยบริการ สี่ล้อแดง นำเที่ยวครับ















ถ้าท่านต้องการที่จะไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้
ลงรถที่สถานนีขนส่งอาเขต ที่เชียงใหม่ แห่งใหม่(อาเขต3)
หรือสถานีขนส่งอาเขต เก่า (อาเขต2)
ท่านจะเห็นรถสองแถวแดงที่คอยบริการท่าน
จอด เรามีรถไว้บริการท่านจำนวนมาก หลากหลายสไตล์
ที่ท่านชอบ หรือว่าท่านจะสดวก ติดต่อมาก่อนก็ได้
ที่หมายเลข 081-5688750 ยินดีให้บริการแนะนำ
ท่องเที่ยวเชียงใหม่














จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปตามทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-หางดง-สันป่าตอง-จอมทอง เส้นทางนี้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นวัดวาอาราม และศิลปวัฒนธรรมเป็นส่วนมาก เริ่มต้นกันที่ เวียงท่ากาน ผ่านอำเภอสันป่าตอง ถึงแยกบ้านทุ่งเสี้ยว เลี้ยวซ้ายไป 2 กิโลเมตร ให้คุณได้ชมปูชนียสถานที่สำคัญของอำเภอสันป่าตอง ที่ว่ากันว่าในอดีตเป็นเมืองเก่า ภายในสามารถแบ่งการชมได้ถึง 6 กลุ่ม ทั้งกลุ่มโบราณสถานกลางเมือง กลุ่มวัดและอุโบสถ กลุ่มวัดต้นโพธิ์ กลุ่มวัดหัวข่วง และกลุ่มวัดต้นกอก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมที่สุด
จากสันป่าตองขับรถต่อไปจนถึงอำเภอจอมทอง ถึงตรงนี้จะเลยทางแยกขึ้นดอยอินทนนท์มาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะ วัดพระธาตุศรีจอมทองวิหาร วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี ภายในวัดมรพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ในพระโกศห้าชั้น ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน

ที่เที่ยวต่อไปนี้ แล้วแต่จะตัดสินใจ ถ้าคุณเลือกที่จะเที่ยวดอยอินทนนท์แบบเช้าเย็นกลับก็ให้ขึ้นดอยอินทนนท์ต่อได้เลย แต่สำหรับท่านใดที่มีเวลามากพอ ขอให้ได้ไปต่อกันที่ พระธาตุดอยน้อย กันก่อน ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุน่าสนใจมากมาย ทั้งกรุพระ โบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก ถ้าอยากชมวิวสวยๆ เดินขึ้นบันไดนาค 241 ขั้นก็สามารถได้ชมวิวแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว

จากนั้นก็เป็นไฮไลท์ของทริปวันนี้แล้วนะคะ ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม มุ่งหน้าสู่ยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งตลอดเส้นทาง ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเที่ยว ตั้งแต่ดิโลเมตรที่ 1 กันเลยทีเดียว นั่นก็คือ น้ำตกแม่ยะ (จากกิโลเมตรที่ 1 แยกซ้ายไปอีก 14 กิโลเมตร) เป็นน้ำตกที่สวยงามและสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เกิดจากห้วยแม่ยะตกลดหลั่นกันลงมาตามหน้าผาหินสูงราว 280 เมตร กว้าง 80 เมตร เรียกว่าต้องแหงนหน้ามองความยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว













ต่อมาก็เป็น น้ำตกแม่กลาง (กิโลเมตรที่ 8) เป็นอีกน้ำตกที่สวยงาม ที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งปิกนิกพักผ่อนกินอาหารมื้อว่าง มื้อสาย ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น ไม่ค่อยเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ถัดมาเป็น ถ้ำบริจินดา (กิโลเมตรที่ 8.5) ภายในถ้ามีหินงอกหินย้อยสวยงามอายุมากกว่าล้านปี และยังมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย































ณ.จุดนี้ก็อาจเกือบเที่ยงแล้วก็ได้นะคะ สถานที่เที่ยวที่เหมาะที่สุดก็จะเป็น น้ำตกวชิราธาร (กิโลเมตรที่ 21) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดทั้งปี หน้าฝนน้ำหลากถาโถมกระทบหินด้านล่าง ถ้ามาชมตอนเที่ยงวันที่แดดจัดมากจะเห็นละอองรุ้งฟุ้งไปไกลจนเกิดเป็นประกายรุ้งกินน้ำสีสันสวยงาม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตกแห่งนี้สวยงามที่สุด ส่วนด้านล่างของน้ำตก มีร้านอาหารให้คุณเลือกทานเพียบ ให้คุณเลือกรับประทานได้ตามใจชอบเลยนะคะ













หลังมื้อเที่ยงต่อไปไม่ไกลก็จะมีน้ำตกอีกแห่งหนึ่ง คื น้ำตกสิริธาร เป็นน้ำตกขนาดเล็กหลบอยู่ในหุบเขาและป่าดงดิบ มีระเบียงไม้ร่มรื่นให้คุณได้นั่งเล่นและชมวิวน้ำตกได้จากระยะไกล หลังจากนี้ก็อีกไม่ไกลก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯดอยอินทนนท์แล้ว ถ้าคุณจองที่พักมาล่วงหน้าแล้ว ก็ให้ไปคอนเฟิร์มว่าคืนนี้มีที่นอนอย่างแน่นอนแล้ว ค่อยไปเที่ยวกันต่อ แต่ถ้าคุณมาเที่ยวแบบมาเช้าเย็นกลับก็ไม่ต้องไปรอให้ถึงที่ทำการฯ จะมีทางแยกขวามือให้ไปชม สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ อยู่ในเขตหมู่บ้านม้งขุนกลาง ภายในตกแต่งรมรื่นสวยงามมีโรงเรือนปลูกไม้ดอก ไม้ผลเมืองหนาว กาแฟสด สิ้นค้าที่ระลึกของมูลนิธิโครงการหลวง และยังมีร้านอาหารเมนูปลาเทราท์รสเยี่ยม และบ้านพักหลังใหญ่ไว้รอบริการคุณด้วยนะครับ
























































ทริปเที่ยวเชียงใหม่+ม่อนแจ่ม 2 วัน1 คืน

ทริปเที่ยวเชียงใหม่+ม่อนแจ่ม 2 วัน1 คืน

เนื่องจากมีธุระสำคัญที่เชียงใหม่เลยถือโอกาสไปเที่ยวด้วยซะเลย

ทริปนี้มีเวลาไม่มากจึงวางแผนเที่ยวไว้คร่าวๆ ถ้าเวลาไม่อำนวยค่อยปรับเปลี่ยนอีกที หาข้อมูลจากแถวๆนี้แหละค่ะ

เมื่อไปมาแล้วลองมารีวิวดูเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปบ้างนะครับ

สถานที่เที่ยวในทริปนี้ประกอบด้วย

วันแรก : พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา, วัดสวนดอก, ร้านCake Cattage, ร้านI berry, โรงแรมดิเอ็มเพรส, ถนนคนเดินประตูท่าแพ

วันที่2 : สวนเอเดน, ม่อนแจ่ม, บ้านม่อนม่วน, สวนพฤกษ์ศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, Tita Gallery, กาดดารา

ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่า  ใช้เวลาเที่ยว 2 วัน 1 คืน 


















เริ่มออกเดินทางจากโคราชตั้งแต่20.30น. ด้วยรถทัวร์VIPของบริษัทนครชัยทัวร์

ถือว่านั่งสบายใช้ได้นะคะ 12ชม.เต็มก็มาถึงอาเขตแห่งที่3 หาห้องพัก ราคาไม่แพงนัก

เหมารถแดง (โทร. 0815688750  ลุงแดง) ไปโรงแรมฝากของไว้เพราะยังเช็คอินไม่ได้

เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราก็ออกไปทานข้าวเช้าแล้วเริ่มเที่ยวกันเลย

ที่แรกคือที่นี่ครับ หรือจะไปพักโรงแรมดิอิมเพรส โรงแรมวังบูรพา ก็ได้ โรงแรมบัวระยา














พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ถ.ห้วยแก้ว ใกล้กับสี่แยกกาดพยอมครับ

เป็นพื้นที่ของสำนักส่งสริมศิลปวัฒนธรรม ม.เชียงใหม่

โดยรวมเรือนโบราณในเขตล้านนามาอนุรักษ์ไว้ให้ได้ชมกัน 8 เรือน

ข้อมูลที่หาไปตอนแรกบอกว่าปิดเสาร์-อาทิตย์ วันที่ไปเป็นวันอาทิตย์แต่ลองเสี่ยงดู

สรุปว่าเปิดทุกวันค่ะ ไปถึงมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและให้หนังสือคู่มือที่บอกรายละเอียดของเรือนแต่ละหลังให้เราอ่านดูได้ตามใจชอบ

ไม่เก็บค่าเข้านะคะ มีร้านกาแฟเล็กๆอยู๋ด้านหน้าด้วย

รวมรูปมาให้ดูบรรยากาศครับ


จากพิพิภัณฑ์ก็เดินออกมาทางกาดพยอมครับ

ระหว่างทางเห็นกำแพงเวียงสวนดอก

ถ้าไม่เห็นป้ายแทบไม่รู้เลยนะเนี่ย














เดินจากพิพิธภัณฑ์ประมาณ 800 เมตร ก็มาถึง วัดสวนดอกครับ













ประวัติวัดสวนดอก จากวิกิพีเดียครับ

วัดสวนดอก หรือ วัดบุปผาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันตั้งอยู่บนถนนสุเทพ 

ในอดีตนั้นป็นสวนดอกไม้ (ต้นพยอม) ของเจ้านายฝ่ายเหนือใน ราชวงศ์เม็งราย

พระเจดีย์วัดสวนดอก

















กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ

มีกู่บรรจุพระอัฐิพระราชชายา เจ้าดารารัศมีรวมอยู่ด้วยครับ














บรรยากาศในวัดร่มรื่นมากครับ

















เข้ามากราบพระประธานในพระวิหาร

















ออกจากวัดมามีมูลนิธิส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชาวไทยภูเขาอยู่ข้างๆวัดครับ














ออกจากวัดแล้วเดินมุ่งหน้าไปทางรพ.ประสาทเชียงใหม่

จะเจอถ.ศิริมังคลาจารย์ เดินไปประมาณ 1 กม.ถึงซอยศิริมังคลาจารย์13

เดินเข้าไปเกือบสุดซอย ก็มาถึงบ้านไม้หลังนี้เป็นที่ตั้งของร้านCake Cottageครับ

เคยอ่านรีวิวว่าเค้กอร่อย ท่าทางจะดังจริงเพราะไม่มีป้ายบอกเลย แต่ก็มาถึงจนได้













เนื่องจากเสียพลังในการเดินมาเยอะ ก็ตรงดิ่งไปที่ตู้เค้กเลยครับ

เมนูขึ้นชื่อ คือ พายกล้วยหอมชีส พายมะพร้าว

นอกจากนี้มีอาหารทั้งไทยและฝรั่ง ไอศครีมโฮมเมด เค้กด้วยครับ














เมนูที่สั่งมา ได้แก่ พายกล้วยหอมชีส เค้าช็อคโกแลตมะพร้าวอ่อน

ไอติมรสมะนาว ชามะนาว 

พายกล้วยหอมชีสก็อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆครับ

ซื้อพายมะพร้าวกลับไปแต่ทิ้งไว้นานเลยอดชิมเลยว่าอร่อยแค่ไหน


















บรรยากาศในร้านCake Cottageครับ


















จากร้านcake cottage เดินกลับออกมาต้นซ.ศิริมังคลาจารย์13

แล้วก็ข้ามถนนไปยังซอยฝั่งตรงข้ามที่เยื้องเล็กน้อย

เดินเข้าซอยไปประมาณ200เมตรก็ถึงร้านไอเบอรี่ครับ


















เนื่องจากในกระเพาะอาหารยังเต็มไปด้วยเค้กและพาย

จึงไม่สามารถยัดเพิ่มได้อีก เลยถ่ายรูปเล่นเล็กน้อยแล้วก็กลับโรงแรมครับ


















โรงแรมที่พักคือ โรงแรมดิเอ็มเพรส อยู่บนถ.ช้างคลานครับภายในห้องนอน














เฟอร์นิเจอร์ในห้อง













ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น มินิบาร์


















ห้องน้ำ













วิวจากกระจกมองลงไปเห็นแบบนี้














ตอนกลางคืนเป็นแบบนี้ครับ

ปิดท้ายค่ำคืนแรกด้วยถนนคนเดินประตูท่าแพ


















ทุกคนจะยิ้มระรื่น ชื่นบาน


















หลังเดินช้อบปิ้งจนขาลากก็กลับมาพักที่โรงแรม

วันที่2 ติดต่อเหมารถแดงเพื่อไปเที่ยวม่อนแจ่มครับ















ม่อนแจ่มเป็นส่วนของโครงการหลวงหนองหอย

ตั้งอยู่ที่อ.แม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เกือบ 40 กม.ครับ
















ก่อนถึงม่อนแจ่ม

คนขับพาแวะที่นี่ก่อนครับ














ร้านขายของฝากอยู่ด้านหน้าเลย














ที่สวนเอเดนจะมีกล่องให้หยอดค่าเข้าชมคนละ 20 บาทครับ

เข้ามาปุ๊บเห็นเค้ากำลังตัดองุ่นอยู่พอดี














ตอนแรกนึกว่าเอาของปลอมมาแขวนไว้ ฮ่าฮ่าฮ่า

เพราะมันเยอะมากจริงๆ














เดินออกจากสวนองุ่นมาจะเจอไร่สตรอเบอรี่ครับ

ช่วงที่ไปไม่ค่อยเห็นลูก สงสัยจะเพิ่งเก็บไปหรือยังไม่ออกก็ไม่รู้














จากสวนเอเดนเดินทางต่อไปที่ม่อนแจ่มกันเลยครับ















ขึ้นไปถึงม่อนแจ่มประมาณ 9 โมง

อากาศเย็นสบายแต่ก็เริ่มมีแดดแล้ว

วันนี้ฟ้าใสมาก บรรยากาสดีสุดๆเลยครับ














ผีเสื้อบินมาเกาะได้ที่พอดีเลยครับ เลยถ่ายรูปมาฝาก














เชิญค่ะคุณดินสอไม้กับสีเทียน ช่วงที่ไปยังไม่มีนะครับ

มีแต่แปลงผักสมุนไพรครับ














สลับกับแปลงดอกไม้













ร้านกาแฟเล็กๆบนเดิน













ชอบท้องฟ้าสีสวยมากๆ














ไกลออกไปเห็นแปลงผัก(รึเปล่า)เป็นขั้นบันได














มีศาลาเล็กๆไว้ให้นั่งชมวิว














มีห้องน้ำสะอาด กลิ่นหอมด้วย














วิวจากจุดชมวิว













หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศบนม่อนแจ่มเต็มที่แล้ว

ก็ค่อยๆหาที่เที่ยวกลับลงมาตามรายทาง

ที่แรกในฐานะแฟนละครธรณีนี่นี้ใครครองก็ต้องไม่พลาด

วิวระเบียงบ้านคุณย่า ณ บ้านม่อนม่วนค่ะ

จากปากทางที่ตั้งโครงการหลวงฯเลี้ยวเข้าซอยมาเล็กน้อยก็จะเจอครับ














ที่นี่มีขายทั้งอาหารและเครื่องดื่มค่ะ














บ้านม่อนม่วน เป็นรีสอร์ทที่เป็นบ้านไม้ ตกแต่งน่ารักมากครับ


วิวระเบียง














จากระเบียงมองลงไป











บ้านพักอยู่ด้านล่าง

ตกแต่งน่ารักดี

น่าพักจังเลยครับ